นิพนธ์ เผย หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบฝนตกหนัก กำชับ ผู้ว่าฯ นายอำเภอเข้มงวด แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ หวั่นประชาชนได้รับอันตราย
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2565 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนฉบับที่ 13 เรื่องฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามัน มีผลกระทบในช่วง 13-14 ก.ค.นี้
โดยมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทย ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ให้ระมัดระวังเหตุพายุลมแรง และฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
“ ได้กำชับให้ผู้ว่าฯ และนายอำเภอ ในฐานะผู้ดูแลพื้นที่ ให้ทำหน้าที่บูรณาการประสานงานระหว่างทุกหน่วยงานในพื้นที่อย่างใกล้ชิดหากเกิดภัยพิบัติขึ้น ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานลงไปช่วยเหลือพี่น้อง ประชาชนในพื้นที่ที่เกิดเหตุในทันที และกระทรวงมหาดไทยจะติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่ร่วมกับทุกจังหวัดอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้เมื่อเกิดเหตุในพื้นที่ให้จัดชุดปฏิบัติการเข้าคลี่คลายสถานการณ์ทันที จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้า เพื่อให้ประชาชนได้เตรียมพร้อมได้ทันท่วงทีกรณีเกิดการอพยพ สำหรับจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น ทะเล ถ้ำ ให้แจ้งเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่างเข้มงวด ห้ามเดินเรือช่วงที่มีคลื่นลมแรง” นายนิพนธ์กล่าว
ทั้งนี้จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้
ในวันที่ 13 ก.ค.2565 ภาคเหนือ บริเวณเชียงราย ลำพูน พะเยา ลำปาง แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี, ภาคกลาง บริเวณนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี และราชบุรี, ภาคตะวันออก บริเวณนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด, ภาคใต้ บริเวณประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง
ในวันที่ 14 ก.ค.2565 ภาคเหนือ บริเวณเชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร ยโสธร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ, ภาคกลาง บริเวณนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี กาญจนบุรี และราชบุรี, ภาคตะวันออก บริเวณนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี และตราด, ภาคใต้ บริเวณเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร, ทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 14 ก.ค.นี้
///